ไฟลัมไซแคโดไฟตา
ได้เเก่ พืชพวกปรง ส่วนใหญ่พบในเขตร้อน
ปัจจุบันเหลือเพียง 100 กว่าสปีชีส์ (
เป็นพืชที่พบมากในยุคจูเเรสสิก ) ใช้ประโยชน์ในการทำไม้ประดับ
เเละบอนไซ
ลักษณะต้นสปอร์โรไฟต์ ของปรง
- มีต้นใหญ่เตี้ยเป็นเเท่ง ไม่เเตกกิ่งก้าน
- มีใบขนาดใหญ่เป็นใบประกอบคล้ายใบเฟิน อยู่รวมเป็นกระจุกที่ยอด
ลักษณะต้นสปอร์โรไฟต์ ของปรง
- มีต้นใหญ่เตี้ยเป็นเเท่ง ไม่เเตกกิ่งก้าน
- มีใบขนาดใหญ่เป็นใบประกอบคล้ายใบเฟิน อยู่รวมเป็นกระจุกที่ยอด
- มีเมล็ดใช้ในการสืบพันธุ์มี Cone เมล็ดไม่มีผนังรังไข่ห่อหุ้มเหมือนพืชพวกสน
งอกได้ทันทีไม่ต้องฟักตัว
พืชดิวิชันนี้มีอยู่ประมาณ 60 ชนิด
ตัวอย่างที่รู้จักกันดีคือ พวกปรง (Cycas) สปอโรไฟต์มีลำต้นอวบ
เตี้ย และมักไม่แตกแขนง มีใบเป็นใบประกอบแบบขนนกขนาดใหญ่
เกิดเป็นกระจุกที่บริเวณยอดของลำต้น ใบย่อยมีรูปร่างเรียวยาว
และแข็งสปอโรไฟต์ที่เจริญเต็มที่จะสร้างโคนเพศผู้ และโคนเพศเมีย แยกตัวกัน
การสืบพันธุ์
- มีต้นตัวผู้ ต้นตัวเมียเเยกออกจากกัน
- มีอวัยวะสืบพันธุ์ เรียกว่า โคน ( cone ) หรือ สโตรบิลัส ( strobilus ) อยู่ปลายยอดของลำต้น
- เมล็ดเปลือยที่ไม่มีรังไข่ห่อหุ้ม เช่นเดียวกับพืชพวกสน ต้นเเกมีโทไฟต์ มีขนาดเล็กมากเหลือเพียงไม่กี่เซลล์ เเละอาศัยอยู่บนต้นสปอร์โรไฟต์
- มีอวัยวะสืบพันธุ์ เรียกว่า โคน ( cone ) หรือ สโตรบิลัส ( strobilus ) อยู่ปลายยอดของลำต้น
- เมล็ดเปลือยที่ไม่มีรังไข่ห่อหุ้ม เช่นเดียวกับพืชพวกสน ต้นเเกมีโทไฟต์ มีขนาดเล็กมากเหลือเพียงไม่กี่เซลล์ เเละอาศัยอยู่บนต้นสปอร์โรไฟต์
สปอร์โรไฟต์ ของปรง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น