ไฟลัมโคนิเฟอโรไฟตา
( Coniferophyta )ได้เเก่ พืชพวกสน เช่น สนสองใบ สนสามใบ มักพบในบริเวณที่มีอากาศหนาวเย็น เช่น ดอยอินทนนท์
ขุนตาล ภูกระดึง
ลักษณะต้นสปอโรไฟต์ของพวกสน
- เป็นพืชยืนต้นขนาดใหญ่ ต้นสูงชะลูด
- ใบมีลักษณะคล้ายรูเข็ม มีคิวติเคิลหนาปกคลุม เเละใบมักอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม
- มีอวัยวะสืบพันธุ์เรียกว่า โคน ( cone ) หรือ สโตรบิลัส ( strobilus ) ลักษณะเป็นเกล็ดหรือ เเผ่นเเข็งที่เรียงซ้อนกันเเน่น เปลี่ยนเเปลงมาจากใบที่เรียงซ้อนกัน( สปอโรฟีลล์ )
- โคนมี 2 ชนิด คือ โคนตัวผู้ ทำหน้าที่สร้างไมโครสปอร์ที่จะเปลี่ยนเเปลงต่อไปเป็นละอองเรณูหรือเเกมีโทไฟต์เพศผู้ เเละโคนตัวเมีย ทำหน้าที่สร้างเมกะสปอร์ที่เปลี่ยนเเปลงไปเป็น เเกมีโทไฟต์เพศเมียที่สร้างไข่ภายในโอวูล
- เม็ดไม่มีผนังรังไข่หรือผลห่อหุ้ม เรียกว่า เมล็ดเปลือย ( naked seed ) เกิดขึ้นติดอยู่กับเเต่ละเกล็ดของโคนตัวเมีย
ลักษณะต้นสปอโรไฟต์ของพวกสน
- เป็นพืชยืนต้นขนาดใหญ่ ต้นสูงชะลูด
- ใบมีลักษณะคล้ายรูเข็ม มีคิวติเคิลหนาปกคลุม เเละใบมักอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม
- มีอวัยวะสืบพันธุ์เรียกว่า โคน ( cone ) หรือ สโตรบิลัส ( strobilus ) ลักษณะเป็นเกล็ดหรือ เเผ่นเเข็งที่เรียงซ้อนกันเเน่น เปลี่ยนเเปลงมาจากใบที่เรียงซ้อนกัน( สปอโรฟีลล์ )
- โคนมี 2 ชนิด คือ โคนตัวผู้ ทำหน้าที่สร้างไมโครสปอร์ที่จะเปลี่ยนเเปลงต่อไปเป็นละอองเรณูหรือเเกมีโทไฟต์เพศผู้ เเละโคนตัวเมีย ทำหน้าที่สร้างเมกะสปอร์ที่เปลี่ยนเเปลงไปเป็น เเกมีโทไฟต์เพศเมียที่สร้างไข่ภายในโอวูล
- เม็ดไม่มีผนังรังไข่หรือผลห่อหุ้ม เรียกว่า เมล็ดเปลือย ( naked seed ) เกิดขึ้นติดอยู่กับเเต่ละเกล็ดของโคนตัวเมีย
การสืบพันธุ์
- มีการถ่ายละอองเกสรโดยลม เมื่อละอองเรณูตกลงบนโคนตัวเมียจะเจริญขึ้นเเละสร้างสเปิร์มกับหลอดละอองเรณูที่จะนำสเปิร์มไปปฏิสนธิกับไข่เกิดไซโกตขึ้นภายในโอวูล
- หลังปฏิสนธิ โอวูลเปลี่ยนเเปลงไปเป็นเมล็ด ไซโกตจะเจริญขึ้นกลายเป็นเอมบริโอ ที่จะเจริญต่อไปเป็น ต้นอ่อนของสปอโรไฟต์( young sporphyte ) ภายในเมล็ด
- เมล็ดที่เเก่จัด ปลิวไปตกในที่เหมาะสม งอกเป็นสปอโรไฟต์ต้นใหม่
- มีการถ่ายละอองเกสรโดยลม เมื่อละอองเรณูตกลงบนโคนตัวเมียจะเจริญขึ้นเเละสร้างสเปิร์มกับหลอดละอองเรณูที่จะนำสเปิร์มไปปฏิสนธิกับไข่เกิดไซโกตขึ้นภายในโอวูล
- หลังปฏิสนธิ โอวูลเปลี่ยนเเปลงไปเป็นเมล็ด ไซโกตจะเจริญขึ้นกลายเป็นเอมบริโอ ที่จะเจริญต่อไปเป็น ต้นอ่อนของสปอโรไฟต์( young sporphyte ) ภายในเมล็ด
- เมล็ดที่เเก่จัด ปลิวไปตกในที่เหมาะสม งอกเป็นสปอโรไฟต์ต้นใหม่
ต้นเเกมีโทไฟต์ของสน มีขนาดเล็กมากเหลือเพียงไม่กี่เซลล ์ เเละอาศัยอยู่บนต้นสปอโรไฟต์ ได้เเก่ เเกมีโทไฟต์เพศผู้ คือ
ละอองเรณูที่จะสร้างสเปิร์มเมื่อตกลงบนโคนตัวเมีย เเกมีโทไฟต์เพศเมีย อยู่ภายในโอวูลทำหน้าที่สร้างรังไข่ พืชพวกสนเจริญเติบโตเร็ว
เพราะมีราไมคอไรซาอยู่ร่วมกับเซลล์ราก
เเบบภาวะที่ต้องพึ่งพาราเปลี่ยนเเปลงฟอสฟอรัสในดินให้อยู่ในรูปของสารที่รากสนดูดไปใช้ได้ อวัยวะสืบพันธุ์ของสน คือ โคนสองชนิด ได้เเก่โคนตัวผู้เเละโคนตัวเมีย ภายในเเต่ละเกล็ดของโคนตัวเมีย มีโอวูลที่จะสร้างเมกะสปอร์ ( n ) --> เเกมีโทไฟต์เพศเมียซึ่งมีอาร์คีโกเนียมหลายอัน
เเต่ละอันจะสร้างเซลล์สืบพันธุ์คือไข่ ภายใจนเเต่ละเกล็ดของโคนตัวผู้ มีอับสปอร์
เรียกว่า ไมโครสปอร์เเรงเจีย ซึ่งภายในมีการเปลี่ยนเเปลงดังนี้
เซลล์เเม่ของไมโครสปอร์ ( 2n ) --> ไมโครสปอร์ ( n
) --> ละอองเรณู ( เเกมีโทไฟต์เพศผู้ที่ยังเจริญไม่เต็มที่ )
เมื่อถ่ายละอองเกสร ละอองเรณูเจริญขึ้นงอกเป็นหลอดเข้าไปในในไข่เเละสร้างสเปิร์ม
เข้าไปปฏิสนธิกับไข่เกิดเอมบริโอภายในเมล็ด ที่จะงอกเป็นต้นสปอโรไฟต์ขนาดใหญ่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น